พระศาสดาผู้ทรงห่วงใยเยาวชน
 
   
องค์พระศาสดาศิริสัตคุรุ ยัคยีต ซิงห์ ยี ทรงเป็นพระศาสดาองค์ปัจจุบันของศาสนิกชนชาวนามธารี
 
   

พระองค์ทรงเป็นที่รักใคร่ของชาวนามธารีทั่วโลก พระองค์เปรียบเสมือนพระบิดาและพระมารดาของเราทุกคน ซึ่งถูกกล่าวไว้ใน
พระมหาคัมภีร์ ที่ว่า
กล่าวคือ องค์พระศาสดาศิริสัตคุรุ ยัคยีต ซิงห์ ยี ได้ทรงปฏิบัติพระองค์ ตามที่ในพระมหาคัมภีร์ได้แสดงไว้อย่างเป็นรูปธรรมให้ประจักษ์ชัดเจนที่สุดสมดั่งบทความอีกตอนหนึ่งในพระมหาคัมภีร์ที่แสดง ให้เห็นว่าพระผู้เป็นเจ้านั้นคือองค์อวตารที่สถิตลงมาในร่างของพระศาสดาที่เราสามารถมองเห็นเป็นรูปองค์ได้ด้วยสายตาของเราเอง

 
พระศาสดาศิริสัตคุรุ ยัคยีต ซิงห์ ยี ทรงให้ความสำคัญกับเยาวชน
องค์พระศาสดาศิริสัตคุรุ ยัคยีต ซิงห์ ยี ทรงมีความผูกพันกับสานุศิษย์ของพระองค์โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคต ของสังคมโลกด้วยพระทัยอันเปี่ยมด้วยความรัก และความห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง ตลอดจนทรงทุ่มเทพระวรกายของพระองค์กับเด็ก ๆ หรือเยาวชนอย่างมากมายอยู่เสมอ
ทรงให้ความสำคัญกับกิจกรรม ผลงาน และการพัฒนาเยาวชน
 
พระองค์ทรงให้ความสำคัญกับกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดจนผลงานซึ่งเกี่ยวกับการพัฒนาเยาวชนอย่างจริงจัง เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตา มหาชน ซึ่งจะขอยกตัวอย่างเพียงบางส่วนในโอกาสนี้ คือ
ทรงก่อตั้งชมรมยุวนามธารี
ที่ศิริแปนิซาแฮบ ประเทศอินเดีย เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 1962
ทรงจัดให้มีการประชุมสัมนา
ซึ่งมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย อาทิการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการสัมนาธรรม การศึกษาหาความรู้ เรื่องศาสนา ตลอดจนการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ หรือแม้แต่การประกวดประชันความสามารถในการปฏิบัติธรรม รักษาศีล การอ่านพระคัมภีร์ระหว่างเยาวชนด้วยกัน เริ่มครั้งแรกในปี ค.ศ. 1965 ซึ่งมีเยาวชนทั่วทุกภาคในประเทศอินเดียให้ความ สนใจเข้าร่วมกิจกรรม เป็นจำนวนมาก
ต่อมาทรงขยับขยายการประชุมสัมมนานี้ให้กว้างขึ้นเป็นระดับนานาชาติ แต่ละปีมีเยาวชนนามธารีในประเทศต่าง ๆ ส่งตัวแทน เข้าร่วม และสังเกตุการณ์อยู่เป็นประจำ ทรงสนับสนุนให้จัดกิจกรรมในประเทศที่มีเยาวชนนามธารีอาศัยอยู่ ดังเช่นที่เยาวชน นามธารีในประเทศ ไทยเคยได้รับโอกาสนี้มาแล้ว และองค์พระศาสดา ศิริสัตคุรุ ยัคยีต ซิงห์ ยี ได้ทรงพระกรุณาเสด็จมา เป็นองค์ประธานในพิธีเปิดด้วยพระองค์เอง
 
ทรงสนับสนุนดนตรีสังคีตศิลป์
 
พระองค์ได้ทรงให้การสนับสนุนเพื่อให้มีการฝึกสอน jsI umu]As อันเป็นประเพณีวัฒนธรรมดั่งเดิมของชาวอินเดียทั่วไป ซึ่งมีความเชื่อ ว่าการบรรเลงดนตรีคือสื่อสำคัญเพื่อการขับร้องเพลงสวดสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า เพื่อเข้าถึงพระองค์ได้เป็นอย่างดี โดยพระองค์ได้ทรง เชิญปรมาจารย์ผู้มีชื่อเสียงทางด้านการดนตรีทั้งในระดับชาติ และระดับโลกเพื่อเข้าแลกเปลี่ยนเพิ่มพูนทักษะ ตลอดจนพระองค์ยังทรงสอนทักษะเพิ่มเติม และศิลปวิชาการดนตรีใหม่จากรูปแบบวัฒนธรรมดั่งเดิมให้กับบรรดาปรมาจารย์ เหล่านั้นอยู่เสมอ พระองค์ทรงให้ความสนพระทัยการฝึกอบรมวิทยาการดนตรี jsI umu]As ให้กับเยาวชนนามธารีด้วยพระองค์เอง  
ด้านการกีฬา
 
แม้พระองค์จะทรงมีพระชนมายุมากแล้วก็ตาม แต่พระองค์ก็ยังทรงเป็นแบบอย่างให้กับนักกีฬาทั่วไปได้เป็นอย่างดี กล่าวคือ ทรงว่ายน้ำครั้งละนับชั่วโมง ทรงแบดมินตัน ทรงวอลเล่ย์บอล รวมถึงกีฬาอื่น ๆ อีกมากมาย ทรงสนพระทัยและสนับสนุนเยาวชน ของพระองค์ให้จัดทีมฮอกกี้ขึ้น โดยนักกีฬาของพระองค์ซึ่งก็คือเยาวชน ฝึกฝนกีฬาจากโค้ชระดับชาติอย่างเคร่งครัดจนทีมฮอกกี้ ได้มีโอกาสแข่งขัน และชนะรางวัลระดับชาติมากมาย ทรงให้นักกีฬาของพระองค์รักษาศีลบริสุทธิ์ควบคู่กันไปด้วยเสมอ นอกจากนี้ ยังทรงกล่าวไว้ว่าพระองค์ให้การสนับสนุนเยาวชนของ พระองค์ให้มีใจรักในการฝึกฝนกีฬาต่าง ๆ เพิ่มสุขภาพพลานามัย และความ มีน้ำใจเป็นนักกีฬาควบคู่ไปกับการรักษาศีลอยู่เสมอด้วย  
ทรงห่วงใยด้านการศึกษา
 

องค์พระศาสดา ศิริสัตคุรุ ยัคยีต ซิงห์ ยี ทรงห่วงใยด้านการศึกษาของเยาวชนนามธารีทุกคนเป็นอย่างยิ่ง พระองค์ทรงมีกุศโลบาย ให้เยาวชนของพระองค์ได้มีวิชาความรู้ควบคู่คุณธรรมอย่างจริงจัง โดยพระองค์ทรงก่อตั้ง และดูแลสถาบันการศึกษาของชาว นามธารี ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับมหาวิทยาลัยด้วยพระองค์เองนับ 10 แห่ง ซึ่งในประเทศไทยเองทรงดำริให้มีการก่อตั้ง โรงเรียนนานาชาติโมเดิร์น (MISB) ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2540
โรงเรียนนานาชาติโมเดิร์น เปิดทำการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึง เกรด 10 (เทียบเท่า ม. 6) www.misb.ac.th

 
จากที่ได้กล่าวมานั้นน่าจะพอสรุปได้ว่าพระองค์ทรงรักและห่วงใยสานุศิษย์ของพระองค์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชน
เสมือนหนึ่งบิดามารดาที่ห่วงใยอนาคตบุตร-ธิดาของตนอย่างแท้จริง
ทรงตระหนักดีว่ารากฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับอนาคต คือ การให้ความสำคัญกับเยาวชนในปัจจุบัน
 
เยาวชน และปวงชนชาวนามธารีทุกคนพึงรำลึกไว้เสมอว่าพระองค์ทรงทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง
เพื่ออนาคตอันสดใสทั้งในโลกนี้และโลกหน้าของพวกเราเองทั้งสิ้น
 
ไม่มีอะไรจะตอบสนองพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์นอกจากการรำลึกถึง และปฏิบัติตน
ตามคำสั่งสอนของพระองค์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ซึ่งทั้งหมดนี้จะบังเกิดผลดีต่อผู้ปฏิบัติเอง
และสิ่งนี้เองคือความสุขของพระองค์ที่จะได้เห็นสานุศิษย์ของพระองค์ประสบความสุขความเจริญ